
ช่วงชีวิตหนึ่งของผม ตอนอยู่กับภรร ย า คนเก่านั้น ได้ทำงานเป็นพนักงาน ข า ย ในห้างดัง
แล้วผมได้รู้จักพนักงานห้างคนหนึ่ง ที่มีหนี้สินติดตัวเช่นเดียวกับพนักงานคนอื่นๆ
ทั้งหนี้บัตร ผ่ อ น ของใช้ โดยเดือนบางเดือน แทบไม่มีเหลือเลยล่ะ
เขาเล่าว่า ในปีแรกเขาสร้างหนี้ให้ตนเองด้วยโทรศัพท์ที่อ ย า กได้ ผ่ อ น ด้วยบัตรเครดิต
ในปีต่อๆ มา ในกระเป๋าตังค์ของเขา มีบัตรเครดิตมากกว่า 2 ใบ ช่วงระยะเวลา 4 ปี
เขาทำงานใช้หนี้บัตรอย่างเดียวกับของที่ไม่จำเป็นเท่าไหร่นัก โทรศัพท์ ทีวี เครื่องใช้ต่างๆ
จนวันหนึ่งเขาอ ย า กมีชีวิตใหม่เลยโยนบัตรเครดิตทิ้งหมดทิ้ง
ทำการคืนรถยนต์ที่ ผ่ อ น มานานเป็นปี ย้ายออกจากห้องพักค่าเช่าเดือนละ 6 พัน
ไปเช่าห้องเดือนละ 800 พร้อมห้องน้ำรวมจากเคยกินสเต็ก ชาบู กินของบนห้างกับเพื่อนๆ ประจำ
เขาต้มไข่เพียง 1 ฟอง ละลายกับพริกน้ำปลาไปทานที่ทำงาน กลับมาถึงบ้านกินลูกชิ้น 1 ไม้
และข้าวถุง 5 บ า ท ส่วนน้ำดื่ม ใช้ตู้ยอดวันละ 1 บ า ท เพื่อนในที่ทำงานเริ่มออกห่าง
เพราะเขาไม่ได้กินหรูหราเหมือนที่ผ่านมา รถก็ไม่มีขับเนื้อย่างจากที่เคย
ไปกินกับเพื่อนด้วยกันก็ไม่ไปกิน และห่อข้าวไข่ต้มมาทำงาน กินน้ำฟรีๆ จากห้าง
ตกเย็นกลับบ้าน ทานลูกชิ้นบ้าง มาม่าบ้างไข่เจียวบ้าง สลับกันไป
เชื่อมั้ยว่า เขาทำเช่นนี้เป็นปีๆ เลยล่ะ หลังจากนั้น คือเขามี เ งิ น เก็บ 3-4 หมื่น บ า ท
จากที่เป็นหนี้เดือนไหนได้ค่าคอมมากก็ได้เก็บมากหน่อย
ไม่นำไปใช้ จ่ า ย เหมือนแต่ก่อน ถึงกระนั้นเขาก็ยังคงใช้ชีวิตเช่นเดิม
เพราะเคยชินแล้ว ห่อข้าวมากินพักห้องเช่าที่ใช้ห้องน้ำรวม
จนวันนึงจุดเปลี่ยนชีวิตมาถึง ตากผ้าห่มไว้แล้วโดนขโมย เขาไม่ต้องการซื้อผ้าห่ม
ชุดเครื่องนอนด้วย เ งิ น สดเพราะที่ผ่านมา รู้คุณค่าของ เ งิ น แล้ว เลยตัดสินใจ ผ่ อ น ผ้าห่มกับแขก
แล้วนำผ้าห่มไปเร่ ข า ย แถวบ้านเช่าในราคา 1,500 บ า ท แขกให้ ผ่ อ น
สบายๆ 350 บ า ท ต่อ 10 เดือน วันละ 10 กว่า บ า ท แค่นั้น เลยตัดสินใจ ผ่ อ น
คืนแรกที่นอนใต้ผ้าห่มใหม่ ในใจก็ ฉุ ก คิ ด ด อ ก เท่าตัวเลยนี่หว่านอนไปนอนมาเขาก็คิดได้
ข า ย ผ้าห่ม เ งิ น ผ่ อ น ให้เพื่อนร่วมงานดีไหม พนักงานห้างชอบ ผ่ อ น เขาเลยไปร้าน ข า ย ชุดเครื่องนอน
ไปขอแค็ตตาล็อกชุดเครื่องนอนแบบต่างๆ มา เอาไป ข า ย ให้เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนๆ
สั่งกันในวันเดียวได้เป็นสิบๆ ชุดเลย ด า ว น์ 500 ผ่ อ น 300 บ า ท 10 เดือน ต้นทุน 1,500 บ า ท
ราคาหลายปีก่อน ได้กำไรเท่าบังเลย พนักงานพูดปากต่อปาก
ไปถึงแผนกอื่นก็เลยชวนกันมา ผ่ อ น ในเวลาเพียงไม่กี่เดือนได้ ข า ย ชุดเครื่องนอน
ให้เพื่อนๆพนักงานนับร้อยชุด มีโกงบ้าง หนีบ้าง แต่คำนวณแล้วก็ยังได้กำไร
จากเขาที่เป็นหนี้มากมาย แต่ตอนนี้ แม้ระดับผู้จัดการก็มาขอกู เ งิ น เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
โดยไร้บัตรเครดิต ได้ชีวิตสะดวกสบาย ทั้งยังได้กลับมา ด า ว น์ บ้าน ได้ ผ่ อ น รถคันใหม่
และเ ข า ย ังคงทำตัวเรียบง่ายในการใช้ จ่ า ย เช่นเดิม ห่อข้าวมากิน แต่อาหารดีกว่าเดิม
กินน้ำฟรีของห้างเช่นเดิม และในที่สุดเขารับ ผ่ อ น สินค้า หลายรายการให้กับเพื่อนพนักงาน
ไม่ใช่เพียงแค่เครื่องนอนเท่านั้น จากเป็นหนี้ จนกลายเป็นมีเก็บเป็นแสน
จงประหยัด และใช้ชีวิตอย่างพอดี ใครๆ ก็สามารถทำได้ อยู่ที่ใจล้วนๆอย่าสนใครจะนินทา
ใครจะไม่คบ ให้คุณโฟกัสที่เป้าหมายก็พอ อะไรที่ไม่จำเป็นในชีวิต ก็ตัดออกไปบ้าง
ชีวิตก็จะง่ายขึ้นเยอะวันนี้ถ้าคุณซื้อแต่ของที่อ ย า กได้
เพื่อเอามาอวดคนอื่นละก็ สักวันคุณจะต้อง ข า ย ของที่จำเป็น เพื่อรักษาฐานะตนเอาไว้
ขอบคุณที่มาข้อมูล คุณสิริทัศน์ สมเสงี่ยม