
พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์) อดีตนายตำรวจชื่อดังของวงการตำรวจ ไ ท ย ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นอันมากในการปราบโจรร้ายในภูมิภาคต่าง ๆ ของ ไ ท ย ในภาคกลางเช่น เ สื อ ฝ้าย เ สื อ ย่อง เ สื อ ผ่อน เ สื อ ครึ้ม เ สื อ ปลั่ง เ สื อ ใบ เ สื อ อ้วน เ สื อ ไหว เ สื อ มเหศวร ที่พัทลุง ปราบ เ สื อ สังหรือ เ สื อ พุ่ม ที่นราธิวาส ปราบผู้ร้ายทางการเมือง ในปี พ.ศ. 2481 หัวหน้าโจรชื่อ “อะเวสะดอตาเละ” จนท่านได้ฉายาจากชาว ไ ท ย มุสลิมว่า “รายอกะจิ” ซึ่งแปลว่า “อัศวินพริกขี้หนู”
และยกเว้นคนเดียวที่ขุนพันธรักษ์ราชเดช ไม่ได้ทำการจับกุม แต่แลกกับอิสระภาพนั้นคือ เ สื อ ดำ โดยใช้ร่างลูกน้องของ เ สื อ ดำเองเสียสละชีพว่า เ สื อ ดำถูกสังหารแล้ว ภายหลังจึงทราบว่า ตัวตน เ สื อ ดำยังมีชีวิตอยู่ โดย เ สื อ ไบ เ สื อ มเหศวร ได้พบเจอกันช่วงอายุมากแล้ว และ เ สื อ ดำได้ออกรายการในที่สุด คือบุคคลเดียวที่ ขุนพันธรักษ์ราชเดช ยอมเสี่ยงทำผิดกฏหมาย แต่คดีไม่มีใครทราบความจริงสุดท้ายจึงหมดอายุความลง
อย่างไรก็ตาม ขุนพันธรักษ์ราชเดช เคยเปิดเผยเรื่องราวของเครื่องรางของ ข ลั ง ที่ใส่ติดตัวยามออกปราบโจรจนทำให้แคล้วคลาดภัยอันตรายต่าง ๆ ได้แก่
1.พระปรุหนังอยุธยา
พระปรุหนังในคอขุนพันธ์ ท่านแขวนเป็นพระองค์ประธาน ของพระเครื่องอีกหลายองค์ในสร้อยคอเส้นเดียวกัน ถึงแม้ว่าท่านจะเกษียณแล้ว ก็ยังใส่ติดตัวเสมอมา
2.หลวงปู่ทวด วัดช้างให้
3.พระปิดตาหลวงพ่อทับ วัดทอง
4.พระพิจิตรเม็ดข้าวเม่า
5.ตะกรุดของพระคูกาชาด ย่อง วัดวังตะวันตก
ขอบคุณที่มาข้อมูล ให้ความรู้