
เป็นเรื่องราวของคนสองคนที่ใช้ชีวิตร่วมกัน มีสุขบ้างทุกข์บ้างปะปนกันไป นอกจากความรักที่มีให้กันแล้ว ความเข้าใจและความใส่ใจก็ต้องมีตามกันมาด้วย และที่สำคัญต้องมีความเห็นอกเห็นใจกัน ดังบทความต่อไปนี้ ที่จะมีแง่คิดในหลายๆด้าน
นี่เป็นแค่เรื่องเล่า
หลังปิดไฟเตรียมเข้านอน ภรร ย า สาวคุยกับสามี
“อาเฉียง โรงงานในหมู่บ้านกำลังรับสมัครคนงาน พรุ่งนี้คุณไปลองดูมั้ย”
อาเฉียงเป็นนักศึกษามหาวิท ย า ลัยเพียงคนเดียวในหมู่บ้าน หลังเรียนจบก็หางานที่เหมาะกับตัวเองไม่ได้สักที เขาอยู่บ้านเฉยๆ มา 2 ปีแล้ว รายจ่ายทั้งหมดก็ตกเป็นหน้าที่ของภรร ย า ที่ต้องไปตั้งแผงลอยขายของ
“ผมเรียนจบตั้งมหาวิท ย า ลัย จะให้ไปเป็นคนงานในโรงงาน ผู้หญิงอย่างคุณไม่เข้าใจ ร ะ ดั บ ผมต้องทำบริษัทใหญ่” อาเฉียงไม่พอใจ หันหลังให้ภรร ย า แล้วเข้านอน
“อาเฉียง ฉันไปขายของกลับมามืดค่ำ คุณอยู่บ้านทำอาหารเย็นได้มั้ย” เหมยลี่ปรึกษากับสามีที่นั่งอยู่หน้าคอม ขณะเธอกำลังเตรียมอาหารเย็นหลังจากไปขายของเหนื่อยมาทั้งวัน
“ผมเป็นผู้ชายที่ต้องทำเรื่องยิ่งใหญ่ ทำอาหารซื้อของเป็นเรื่องของผู้หญิงอย่างคุณ อย่ามาโยนให้ผม” อาเฉียงไม่แม้แต่หันหน้ามามอง ยังคงเล่นเกมส์ต่อไป ความหมายก็คือไม่ต้องการช่วยเหมยลี่
แต่เหมยลี่ก็ไม่ยอมแพ้
“งั้นตอนกลางวันคุณมาช่วยฉันขายของมั้ย ช่วงนี้ลูกค้าเยอะ ฉันทำคนเดียวไม่ทัน เราสองผัวเมียช่วยกันขาย ร้านจะต้องไปด้วยดีแน่ๆ”
จริงแล้วเธออ ย า กให้อาเฉียงมาช่วย ยิ่งตอนนี้เขายังหางานไม่ได้สักที อย่างนั้นสองผัวเมียมาช่วยกันทำร้านเล็กๆให้ใหญ่ขึ้นก็น่าจะดี
แต่คำพูดของเธอก็ไม่สามารถทำให้เขาหันมาสนใจได้ เขาฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
“โอ๊ย! ร้านคุณมันแค่แผงลอยเล็กๆ ผมเป็นถึงนักศึกษามหาลัย ไม่ไปขายอะไรเล็กน้อยอย่างนั้นหรอก”
เหมยลี่มองด้านหลังของอาเฉียงที่เอาแต่เล่นเกมส์ เธออ้าปากจะพูด แล้วก็ต้องหุบปากลง…วันเวลาผ่านไป อาเฉียงเอาแต่อยู่กับบ้าน รอโอกาสทองของเขา และเหมยลี่เองก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเขาอีกเลย
เธอออกไปขายของที่ร้านของเธอตอนกลางวัน กลางคืนกลับมาจัดการบ้านที่อาเฉียงทำรกไว้ เธอเหนื่อยจนหัวถึงหมอนก็หลับทันที ส่วนสามีถ้าไม่เล่นคอมพิวเตอร์ก็ออกไปกินเหล้ากับเพื่อนฝูง
อยู่มาวันหนึ่งเขาไปได้ยินว่า ลูกชิ้นปลาของเหมยลี่ไปเตะตานักธุรกิจใหญ่ เหมยลี่กำลังจะกลายเป็นหุ้นส่วนในบริษัท เขาก็รีบกลับบ้านไปคุยกับเธอทันที
“อาลี่ มีคนบอกว่ามีนักธุรกิจใหญ่มาสนใจลูกชิ้นปลาของคุณ คุณกำลังจะกลายเป็นหุ้นส่วนใหญ่”
“อืม ทำไมหรอ” เธอกำลังหันหลังให้เขา เตรียมอาหารเย็น
“นั่นมันบริษัทใหญ่ คุณแนะนำผมเข้าไปหน่อยสิ นี่เป็นโอกาสดีของผมแล้ว” อาเฉียงยิ่งพูดยิ่งดีใจ เขารู้สึกได้ว่าโอกาสของเขามาถึงแล้ว
“คุณคุ้นเคยกับขั้นตอนการผลิตมั้ย”
“ไม่คุ้นอ่ะ”
“คุณมีคอนเนคชั่นมั้ย”
“ไม่ ไม่มีป่ะ”
“คุณมีประสบการณ์ด้านการบริหารมั้ย”
“ไม่มี”
เหมยลี่หันมาคุยกับเขา “แล้วบริษัทจะเอาคุณไปทำอะไร”
“ผมจบมหาวิท ย า ลัย ผมเคยเรียนในมหาวิท ย า ลัย”
ไม่นานหลังจากนั้นอาเฉียงก็ได้รับหนังสือหย่า
ข้างในมีกระดาษโน๊ตเขียนคำพูดของเหมยลี่
คุณทำอาหารเป็นมั้ย? ไม่เป็น
คุณเคยทำงานบ้านมั้ย? ไม่เคย
คุณเคยรู้เคยเข้าใจว่าภรร ย า อย่างฉันลำบากแค่ไหนมั้ย? ไม่เคย
คุณเคยรับผิดชอบอะไรในครอบครัวมั้ย? ไม่เคย
ฉันเป็นผู้หญิง เป็นภรร ย า ของคุณ
เวลาฉันทำงานเหนื่อยๆ ก็อ ย า กให้คุณมาช่วยแบ่งเบา แต่คุณกลับเอาแต่เล่นเกมส์ กับออกไปกินเหล้ากับเพื่อนๆ
ฉันทำงานบ้านแสนเหนื่อย แต่คุณกลับบอกว่ามันเป็นหน้าที่ของฉันคนเดียว
อาเฉียง งานการดีๆ รอไปๆ ก็ไม่มี ใจฉันก็เหมือนกัน
ในเมื่อทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเป็นหน้าที่ของฉัน ทำงานบ้านเป็นหน้าที่ของฉัน ถ้าอย่างนั้นครอบครัวนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีคุณ คุณไม่เหมาะกับตำแหน่ง “สามี” อีกต่อไป
ในชีวิตของคนเรา
เรื่องเล็กๆทุกเรื่องในวันนี้จะสะสมเป็นเรื่องใหญ่ของคุณในอนาคต
เพราะฉะนั้นไม่ว่าเรื่องงานหรือหัวใจ
“ปฏิเสธ” ให้น้อย “ปฏิบัติ” ให้มาก
“บ่น” ให้น้อย “พย า ย า ม ” ให้มาก
“สนุก” ให้น้อย “ลำบาก” ให้มาก
จำไว้
แท็กซี่ที่ไม่ขยัน จะถูก Uber แย่งงาน
พนักงานที่ไม่ขยัน จะถูกพนักงานใหม่แย่งตำแหน่ง
เถ้าแก่ที่ไม่ขยัน จะถูกกลืนกินโดยคู่แข่ง
คนที่ไม่ขยัน จะถูกแทนที่โดยคนที่ยอดเยี่ยมกว่า
ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย อ ย า กให้คุณเข้าใจ คุณไม่ทำมีคนทำแทนคุณ คุณไม่พย า ย า ม มีคนกำลังพย า ย า ม คุณไม่แข่งขันจะมีคนคัดคุณออก ทะนุถนอมคนที่อยู่ตรงหน้า ลองทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คุณแค่รับผิดชอบในการพย า ย า ม โชคชะตาจะจัดการส่วนที่เหลือเอง
ขอบคุณที่มาข้อมูล แบ่งปันสาระ