
กราบ สาธุ พระค า ถ า เก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธย า ค า ถ านี้มีชื่อว่าค า ถ ามงกุฎพระพุ ทธ เจ้า และ ให้ทรงมงกุฎพระพุ ทธ เจ้านี้เอาไว้ตลอดเวลา เป็นการทรงอารมณ์ในพุ ทธ านุสติกรรมฐาน ค า ถ านี้ ดังนี้
อิติปิโส วิเสเสอิ
อิเสเส พุ ทธ ะนาเมอิ
อิเมนา พุ ทธ ะตังโสอิ
อิโสตัง พุ ทธ ะปิติอิ
การสว ด พระค า ถ านี้ ว่า 3 จบ หรือ 9 จบ สำหรับอานิสงส์ของค า ถ านี้เป็น ค า ถ าครอบจักรวาลเรานำไปใช้ในทางกุศลได้ทุก ๆ เรื่อง
โดยมีประวัติ ของการใช้ค า ถ านี้มาย าวนาน ส่วนใหญ่ใน ร า ช สำนัก แม้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า รัชกาลที่ 5 ท่านก็ทรง พระค า ถ านี้เป็นประจำมีที่ปรากฏเป็นปาฏิหาริย์ ก็ครั้งที่ถูกทูตต่างประเทศนำม้าเทศตัวใหญ่แต่เป็นม้าพยศ มาท้าให้ท่านทรง พระ อ ง ค์ ท่าน ได้ใช้พระค า ถ านี้เสกหญ้าให้ม้ากินก่อน ม้าตัวนั้นก็กลับเชื่องให้พระ อ ง ค์ ทรงม้าแต่โดยดี เรื่องนี้ทำให้รัชกาลที่ 6 ผู้ทรงสร้างพระบรมรูปทรงม้าถวายเสด็จพ่อของท่านได้ทรงแฝงนัยยะ แห่งกฤษดาอภินิหารนี้เพื่อเทิดทูนพระคุณท่านเอาไว้
คราวนี้เรามาดูว่าเคล็ดในการว่าค า ถ าบทนี้กันหลักในการว่าค า ถ าให้มีความ ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ นั้น มีพื้นฐานจาก “จิต “เป็นสำคัญ หากจิตมีสมาธิสูงตั้งมั่นค า ถ าก็ยิ่งทรงความ ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ดังนั้นระหว่างที่ว่าค า ถ าให้ จับลมหายใจสบายพร้อม ๆ กับ การภาวนาค า ถ าบทนี้ เป็นขั้นที่ 1 ระดับสูงกว่านี้ ในสมัยกรุงศรีอยุธย า ท่านใช้ค า ถ าบทนี้โดยมีนิมิต กำกับค า ถ า โดยทรงพุ ทธ นิมิต ไว้ดังนี้ โดยตั้งกำลังใจว่าเรา
ขอกราบอาธารณาบารมี พระพุ ทธ เจ้าเสด็จประทับเหนือเศียรเกล้าของข้า พ เจ้า เพื่อ…….ปกปัก รั ก ษ า คุ้มครองข้า พ เจ้า ด้วยเทอญ จากนั้นสว ด พระค า ถ า
“อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุ ทธ นาเมอิ อิเมนา พุ ทธ ตังโสอิ อิโสตังพุ ทธ ปิติอิ”
เมื่อว่าค า ถ าจบ คาบที่ 1
ก็กำหนดอาราธณาพุ ทธ นิมิต อยู่เบื้องหน้า ของศีรษะของเรา และ ทรงพุ ทธ นิมิตนี้เอาไว้
“อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุ ทธ นาเมอิอิเมนา พุ ทธ ตังโสอิ อิโสตัง พุ ทธ ปิติอิ”
ว่าค า ถ าจบที่ 2
ก็กำหนดพุ ทธ นิมิตอีกพระ อ ง ค์ หนึ่ง อยู่เบื้องขวา ของศีรษะของเรา และ ทรงพุ ทธ นิมิตทั้งหมดเอาไว้
“อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุ ทธ นาเมอิ อิเมนา พุ ทธ ตังโสอิ อิโสตังพุ ทธ ปิติอิ”
ว่าค า ถ าจบที่ 3
ก็กำหนดพุ ทธ นิมิตอีกพระ อ ง ค์ อยู่ด้านหลัง ของศีรษะเรา และ ทรงพุ ทธ นิมิตเอาไว้
“อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุ ทธ นาเมอิ อิเมนา พุ ทธ ตังโสอิ อิโสตังพุ ทธ ปิติอิ”
ว่าค า ถ าจบที่ 4
ก็กำหนดพุ ทธ นิมิตอีกพระ อ ง ค์ อยู่ด้านซ้าย และ ทรงพุ ทธ นิมิตเอาไว้
“อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุ ทธ นาเมอิ อิเมนา พุ ทธ ตังโสอิ อิโสตังพุ ทธ ปิติอิ”
ว่าค า ถ าจบที่ 5
ก็กำหนดพุ ทธ นิมิตอีกพระ อ ง ค์ อยู่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ของศีรษะของเรา และ ทรงพุ ทธ นิมิตเอาไว้
“อิงติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุ ทธ นาเมอิ อิเมนา พุ ทธ ตังโสอิ อิโสตังพุ ทธ ปิติอิ”
ว่าค า ถ าจบที่ 6
ก็กำหนดพุ ทธ นิมิตอีกพระ อ ง ค์ อยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ ของศีรษะของเรา และ ทรงพุ ทธ นิมิตเอาไว้
“อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุ ทธ นาเมอิ อิเมนาพุ ทธ ตังโสอิ อิโสตัง พุ ทธ ปิติอิ”
ว่าค า ถ าจบที่ 7
ก็กำหนดพุ ทธ นิมิตอีกพระ อ ง ค์ อยู่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ ของศีรษะของเรา และ ทรงพุ ทธ นิมิตเอาไว้
“อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุ ทธ นาเมอิ อิเมนาพุ ทธ ตังโสอิ อิโสตัง พุ ทธ ปิติอิ”
ว่าค า ถ าจบที่ 8
ก็กำหนดพุ ทธ นิมิตอีกพระ อ ง ค์ อยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ของศีรษะของเรา
และ ทรงพุ ทธ นิมิตเอาไว้ทั้ง 8 พระ อ ง ค์ เรียงวนรอบศีรษะของเรา
“อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุ ทธ นาเมอิ อิเมนา พุ ทธ ตังโสอิ อิโสตังพุ ทธ ปิติอิ”
ว่าค า ถ าจบที่ 9
กำหนดพุ ทธ นิมิตพระพุ ทธ เจ้า อ ง ค์ ใหญ่เสด็จประทับกึ่งกลางศีรษะเป็นยอดมงกุฎเปล่งประกายพรึกทุกๆพระ อ ง ค์ เป็นมงกุฎเพชรพระพุ ทธ เจ้าทั้งเก้าพระ อ ง ค์ บนเศียรเกล้าของเรา เมื่อทำได้แล้วจะเข้าใจได้ทันทีว่าค า ถ านี้ทำไมจึงมีชื่อว่า ค า ถ ามงกุฎพระพุ ทธ เจ้า และ ให้ทรงมงกุฎพระพุ ทธ เจ้านี้เอาไว้ตลอดเวลาเป็นการทรงอารมณ์ในพุ ทธ านุสติกรรมฐาน
คำแปล ค า ถ ามงกุฎพระพุ ทธ เจ้า
ขออัญเชิญคุณแห่งพระพุ ทธ เจ้าอันวิเศษ
คุณแห่งกระแสพระนิพพานอันประเสริฐ
ซึ่งพระพุ ทธ เจ้าทุกพระ อ ง ค์ ทรงสรรเสริญแล้ว
จงเป็นมหาวิภูษิตาภรณ์ประดับด้วยมงกุฎทิพย์
และเครื่องทรงแห่งพระเจ้ามหาจักรพรรดิ
ครอบคลุมข้า พ เจ้า ตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ
ขอบคุณที่มา kidnan
เรียบเรียง showbizinfoo.com