
เมนู แกงกะทิสายบัวปลาทู นับว่าเป็นอาหารไทยโบราณ
ที่นับวันจะหาทานได้ย ากขึ้นทุกที แม้แต่เด็กรุ่นใหม่ๆสมัยนี้ส่วนมากก็ยังไม่เคยทานเม นูนี้เลยด้วยซ้ำ
แต่เม นูน่าลองทำดูนะคะ ทำง่าย, ไม่ยุ่งย าก, อร่อยและเข้มข้นมาก ทานตอ นร้อนๆกับข้าวสวยอร่อยอย่างยิ่ง
ส่วนผ ส ม
-สายบัวลอ กเปลือ กออ ก หักเป็นท่อนๆ 400 กรัม
-ปลาทูแกะเอาแต่เนื้อ 4 ตัว
-น้ำต าลมะพร้าว ½ ช้อนโต๊ะ
-กะทิอร่อยดี 4 ถ้วย
-น้ำเปล่า 2 ถ้วย
-หอมแดง 6 หัว
-พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
-กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
-เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
-น้ำปลา 1 ทัพพี
-น้ำมะขามเปียกคั้น 3 ช้อนโต๊ะ
-โหระพาเด็ดใบ
วิ ธีทำ
1 โขลกพริกไทยเม็ดให้ละเอียด ใส่หอมแดงลงไปโข ล กให้ละเอียดกัน แล้วใส่กะปิ โขลกต่อให้ละเอียดดี
2 นำกะทิใส่ลงไปในหม้อเติมน้ำเปล่า เอาขึ้นตั้งไฟ นำน้ำพริกแกงที่ตำไว้แล้วใส่ลงไป คนให้ละลายแล้วรอให้เดือด จนมีกลิ่ นหอมแล้วใส่สายบัวลงไป
3 ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำต าลมะพร้าวและน้ำมะขามเ ปียก น้ำปลา คนให้เข้ากันพ อสายบัวสุก ใส่ปลาทูแกะแล้ว คนเบาๆให้เข้ากันใส่ใบโหระพา
4 ชิมรสต ามใจชอบแล้ว ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ ฟได้ค่ะ
เคล็ ดลั บเพิ่มเติม
1 วิ ธีการเลือ กสายบัวที่ดีนั้นควรเลือ กสายบัวที่ยังสดอยู่ไม่แห้งไม่เน่า
2 กะปิที่ใช้คว รเป็นกะปิแ กงใต้เพราะจะได้รสชาติที่เข้มข้นกว่าและรสชาติไม่เพี้ ยน
ประโยชน์ของต้มกะทิสายบัวปลาทูนึ่ง
-ช่วยในการขั บถ่า ย
-ช่วยบำ รุ งก ระดู กและฟันให้แข็งแรง
-ช่วยบำ รุ งสายต า
-ช่วยดับร้อนในร่า งกา ย
-ช่วยบำ รุ งกำลัง
-ช่วยบำ รุ งหัวใจ
-แก้ไข้ตัวร้ อน แ ก้เส มหะ
-แก้อาการร้อนในกระ หายน้ำ แก้ลม และโ ล หิ ต
-ช่วยป้องกั นและต้ านโร คม ะเร็ งใน ลำ ไ ส้
ขอบคุณที่มา โพสจัง
เรียบเรียง showbizinfoo.com